หน้าเว็บ

พิธีไหว้ครู ปี 2555 โรงเรียนคุรุราษฎร์รังสฤษฏ์

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา

เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมอบให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะอาศัยอยู่ในชนบทหรือในเมือง ประกอบอาชีพใด หรืออยู่ในสถานะใด ก็สามารถนำหลักคิดนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้ เพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้าได้เหมือนกันทุกคน
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้น สามารถดำเนินการหลากหลายรูปแบบ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงมาตั้งแต่ปี 2549 โดยมุ่งลงสู่การปฏิบัติในสถานศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองยุคใหม่ให้มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงตามเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้ขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาพอเพียง โดยปีนี้มีเป้าหมายทั่วประเทศ จำนวน 9,999 แห่ง
แม้ว่าหลักสูตรขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการจะมุ่งเน้นการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่ยังคงไม่เพียงพอในการปลูกฝังและเสริมสร้างอุปนิสัย อยู่อย่างพอเพียง ได้ลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้เรียนได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงได้
สำหรับนโยบายขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้น ได้กำหนดเป้าหมายพัฒนาและประเมินให้สถานศึกษาในสังกัดจำนวน 9,999 แห่ง เป็นสถานศึกษาพอเพียงในปี 2554 และให้สถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงไปสู่การจัดการศึกษาภายในปี 2556 โดยเฉพาะการยกระดับโรงเรียนไปสู่ ศูนย์การเรียนรู้ ที่สามารถเป็นแบบอย่างและเป็นพี่เลี้ยงให้สถานศึกษาต่างๆ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชนได้อย่างน้อย 1 ศูนย์ ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา     
สำหรับการพัฒนาสถานศึกษาให้สามารถน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการศึกษานั้น สามารถแบ่งระดับคุณภาพของการพัฒนาสถานศึกษาได้ 4 ระดับ คือ
สถานศึกษาทั่วไป : สถานศึกษาที่เริ่มน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการสถานศึกษา ตั้งแต่การบริหารสถานศึกษา การสร้างวัฒนธรรมองค์กร การจัดสภาพแวดล้อม และการจัดการเรียนรู้ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
สถานศึกษาพอเพียง : สถานศึกษาทั่วไปที่ผ่านการประเมินสถานศึกษาพอเพียงซึ่งเป็นแบบอย่างในการจัดกระบวนการเรียนการสอน และการบริหารจัดการสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามเกณฑ์ประเมินสถานศึกษาพอเพียงของกระทรวงศึกษาธิการ        สถานศึกษาพอเพียงต้นแบบ : สถานศึกษาพอเพียงที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ พร้อมเป็นแหล่งศึกษาดูงานของสถานศึกษาอื่นๆ ในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาจัดการสถานศึกษา
ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาสถานศึกษาพอเพียงต้นแบบที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งเรียนรู้และพี่เลี้ยงให้แก่สถานศึกษาทั่วไปที่ต้องการพัฒนาสู่ความเป็นสถานศึกษาพอเพียง
ในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษานั้น  สพฐ. มุ่งปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในวัยเรียนได้เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม  เอกลักษณ์และความเป็นไทย สิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายสำคัญของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้พระราชทานไว้ให้เป็นหลักยึดถือปฏิบัติเพื่อความสุขในชีวิตของคนไทยทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:


อาจารย์สะอาด สุวรรณสิทธิ์

วันนี้เป็นวันที่สายลมหนาวย่างกรายเข้ามาหลายวันแล้ว อำเภอจอมบึงและอำเภอสวนผึ้งกำลังมีบรรยากาศที่สวยงามอากาศเย็นพอใช้ได้ คาดว่าคงพอได้ใส่เสื้อกันหนาวกันอย่างคุ้มค่า บางคนเพิ่งเริ่มหาเสื้อกันหนาวมาใส่ บางคนค้นเสื้อกันหนาวตัวเก่าที่ซื้อมาหลายปีแล้วมาสวมใส่กันหนาว
ช่วงนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน สินค้าขึ้นราคา ค่าเงินเปลี่ยนแปลง รวมถึงเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือน้ำมันขึ้นราคาจนไม่สามารถจะฉุดดึงให้คงที่ได้ หลายสิ่งหลายอย่างมาประเดประดัง ผู้คนต่างต้องระวังตัวเพื่อทำให้ชีวิตคงอยู่ได้ แถมน้ำก็มาท่วมกันเสียยกใหญ่ ลามไปทั่ว เดือนร้อนกันมาเป็นเวลา 2 -3 เดือนแล้ว
จะอย่างไรก็ตามชาวไทยทุกหมู่เหล่าไม่เคยต้องต่อสู้กับอุปสรรคอย่างเดียวดาย ไม่เคยสิ้นหวัง ยังมีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งใดก็ตาม เพราะ....
เราชาวไทยทุกคนมี...พ่อ...พระผู้ทรงห่วงใยลูกๆ ของพระองค์เสมอ แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเหนื่อยเพียงใดก็ตาม วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554 เป็นวันที่ชาวไทยทุกคนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อมหาชนชาวสยามทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ปีนี้เราชาวจอมบึงที่เป็นชาวศิลปะกลุ่ม ด.เด็กถึง ฒ.ผู้เฒ่า หารือกันว่าจะรวมตัวกันแสดงนิทรรศการศิลปกรรมกันอีกครั้ง หลังจากที่ว่างเว้นมาหลายปี ด้วยเหตุที่แต่ละคนมีภารกิจมากมาย อาจารย์อ้วนได้พบกับ สมาชิกหลายคนก็มีความคิดเห็นตรงกันคุยกันสักพักก็ตกลงว่าจะนัดคุยกันถึงนิทรรศการ เราเลยขอเวลานัดผู้เฒ่าทั้งหลายก่อน ความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบในเว็บนะครับ

ศิลปะคืออะไร

สาระสำคัญ

ศิลปะ เป็นผลผลิตที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ได้ถ่ายทอดรูปแบบออกมาเป็นผลงานศิลปะแขนงต่างๆ ผ่านกระบวนการทางความคิด ความต้องการจากแรงกระตุ้นสิ่งเร้าภายนอก ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจของศิลปิน ได้สร้างสรรค์ผลงาน โดยการบูรณาการโครงสร้าง ส่วนประกอบของศิลปะ วัสดุ และเทคนิคกลวิธี ในการถ่ายทอดรูปแบบ คำนึงถึงหลักของการจัดองค์ประกอบศิลป์ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณค่าทางความงาม


สาระการเรียนรู้

ศิลปะ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อสนองความต้องการของตนเองและสังคมมีคุณค่าทางความงาม
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวถึงความหมายของศิลปะ คือ ฝีมือทางการช่าง การแสดงออกให้ปรากฏขึ้น ได้อย่างงดงามน่าพึงชมและเกิดอารมณ์สะเทือนใจ
พจนานุกรมศัพท์ศิลปะอังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า ART ศิลปะ คือ ผลแห่งพลังความคิดสร้างสรรค์ ของมนุษย์ ที่แสดงออกในรูปลักษณะต่างๆให้ปรากฏซึ่งสุนทรียภาพ ความประทับใจ หรือความสะเทือนอารมณ์ ตามอัจฉริยะภาพ พุทธิปัญญา ประสบการณ์ รสนิยม และทักษะของแต่ละคนเพื่อความพอใจ ความรื่นรมย์ ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี หรือความเชื่อในลัทธิศาสนา

การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิด

การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิดเป็นการนำตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จาก 3 สาระ 6 มาตรฐาน จำนวน 27 ตัวชี้วัด มาวิเคราะห์รายตัวชี้วัดใน 4 ประเด็น คือ ตัวชี้วัดแต่ละตัวผู้เรียนควรมีความรู้อะไรและทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชิ้นงานและภาระงาน และแนวการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ในแต่ละประเด็นจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันและสะท้อนคุณภาพผู้เรียนตามตัวชี้วัด

องค์ประกอบศิลป์

ความนำ
ความเป็นศิลปะหรือสิ่งใดที่จะเรียกว่าเป็นงานศิลปะหรืองานออกแบบจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบของศิลปะอย่างครบถ้วน ส่วนวิธีการที่จะสร้างสรรค์ผลงานขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ความไวในการรับรู้เชิงสุนทรียะการตัดสินใจในการออกแบบ ทักษะและความชำนาญในการสร้างสรรค์ ความถนัดเฉพาะตัวเป็นต้น เมื่อนักศึกษาได้เรียนบทเรียนนี้แล้ว นักศึกษาจะได้มีความรู้ความเข้าใจและมีความสามารถทางศิลปะและการออกแบบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการออกแบบกิจกรรมศิลปะในชั้นเรียน การวิจารณ์งานศิลปะและการประเมินผลงานศิลปะเด็ก

องค์ประกอบของศิลปะ

องค์ประกอบ หมายถึงส่วนย่อยต่าง ๆ ที่นำมาประกอบกันเข้าให้เป็นส่วนรวม เช่นร่างกายของคนเราก็ต้องประกอบด้วยลำตัว ศีรษะ แขน ขา ฯลฯ เป็นองค์ประกอบของร่างกาย ในทางศิลปะ องค์ประกอบศิลป์ก็คือการนำเส้น สี แสง เงา น้ำหนัก ฯลฯ มาประกอบกันเข้าให้มีความงาม ความกลมกลืน และการประสานกันอย่างมีเอกภาพ
องค์ประกอบของศิลปะ แต่ละหน่วยหรือแต่ละอย่างจะมีลักษณะของตัวเอง มีคุณสมบัติอยู่ในตัว เช่นเดียวกับส่วนประกอบของอาหารแต่ละอย่าง เมื่อนำเอามาประกอบกันเข้าอย่างได้สัดส่วนที่ดี ย่อมมีความกลมกล่อม อาหารก็อร่อยถึงขั้น “รสโอชา”
การจัดองค์ประกอบศิลปะเป็นวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ศิลปะทุกแขนง ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ฯลฯ เพราะทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้นล้วนแต่ประกอบด้วยส่วนประกอบย่อย ๆ เมื่อนำเอาส่วนประกอบเหล่านั้นมารวมเข้าด้วยกันก็จะบังเกิดผลแก่งานศิลปะนั้นๆ

จุดประสงค์ของการเรียนรู้

1. อธิบายความหมายเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์ได้
2. บอกส่วนประกอบต่างๆ ขององค์ประกอบศิลป์ได้
3. บอกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับหลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ได้

โครงสร้างของงานศิลปะ

โครงสร้างเกี่ยวกับงานศิลปะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1. เส้น (Line) หมายถึง จุดที่เรียงติดต่อกัน เกิดจาการลากขูด ขีด เขียนด้วยวัสดุต่างๆ ลงบนระนาบผิว ทำให้เกิดเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง เส้นเฉียง ฯลฯ สามารถให้ความรู้สึกทางตา คือการมองเห็น ก่อให้เกิดความรู้สึกที่มีความหมายต่างกัน เช่น แข็งกระด้าง อ่อนไหว เป็นต้น



2. รูปร่าง รูปทรง (Form & Shape) เกิดจากการประกอบกันของเส้น รูปทรงแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
- รูปทรงเรขาคณิต
- รูปทรงธรรมชาติ
- รูปทรงอิสระ


3. แสงและเงา (Light & Shadow) แสงและเงา ให้มองเห็นวัตถุต่างๆ เมื่อมองกระทบวัตถุที่จะเกิดส่วนมืดในทิศทางตรงข้ามกับแสง ก่อให้เกิดความรู้สึก ลักษณะแตกต่างกัน


4. บริเวณว่าง (Space) หมายถึง พื้นที่ว่างระหว่างวัตถุ สิ่งของที่วางโดยรอบบริเวณว่างสามารถกำหนดได้ทั้งในงานจิตรกรรม ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม สามารถสร้างบรรยากาศให้เกิดความรับรู้ได้เป็นอย่างดี



5. สี (Color) คือ ลักษณะของแสงที่ปรากฏแก่สายตาเราทำให้มองเห็นสีต่างๆ สีมีอิทธิพลเหนือจิตใจมนุษย์ จากการใช้สายตาสัมผัส จากการใช้สีในงานจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ก่อให้เกิดคุณค่าทางการรับรู้ที่แตกต่างกัน



6. ลักษณะผิว (Texture) เป็นความแตกต่างของผิวที่สัมผัสด้วยการมองเห็น ให้ความรู้สึกเรียบ ขรุขระ หยาบ ผิวมัน ด้าน ฯลฯ ในทางจิตรกรรมเป็นการสร้างภาพลวงตาด้วยลักษณะผิวที่แตกต่างกัน ในทางประติมากรรมเป็นความแตกต่างของพื้นผิว เพื่อเสริมสร้างคุณค่าทางความงาม ในทางสถาปัตยกรรม เพื่อเสริมสร้างความงาม หรือประโยชน์ใช้สอยตามความเหมาะสม



2. หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์มีสิ่งที่ควรคำนึง ดังนี้

2.1 เอกภาพ หมายถึง การรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ไม่แตกแยกกระจัดกระจายไปคนละทิศทางทำให้ขาดประสานสัมพันธ์กัน ในทางทัศนศิลป์เอกภาพยังเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นเนื้อหาเรื่องราวที่ต้องการอย่างชัดเจนด้วย

2.2 สมดุล หมายถึง การจัดวางองค์ประกอบศิลป์ให้มีความเหมาะสมไม่เอียงเอนไปข้างใดข้างหนึ่งของภาพ สมดุลมี 2 แบบ คือ
สมดุลแบบซ้าย-ขวาเท่ากัน เป็นลักษณะการจัดวางองค์ประกอบศิลป์ที่ยึดถือความเหมือนกันทุกประการทั้ง 2 ข้าง เช่น ความสมดุลของร่างกายมนุษย์ เป็นต้น
สมดุลแบบซ้าย-ขวาไม่เท่ากัน เป็นสมดุลทางความรู้สึกในการมองเห็น โดยที่วัตถุหรือเนื้อหาในภาพไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

2.3 จุดเด่นและการเน้น หมายถึง ส่วนสำคัญที่สุดของภาพที่ต้องการแสดง ซึ่งนำไปสู่การบอกเล่าเนื้อหาทั้งหมดของภาพหรือเป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจให้มอง ในทางทัศนศิลป์จุดสนใจควรมีจุดเดียว ซึ่งอาจจะเป็นส่วนที่แสดงความสำคัญหรือมีสีสันสดใสที่สุด นอกจากนั้นยังอาจเน้นให้เกิดจุดเด่นด้วยการสร้างความแตกต่างขึ้นในภาพ จุดเด่นไม่จำเป็นต้องอยู่กลางภาพเสมอไป อาจจะอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพก็ได้

2.4 ความกลมกลืน เป็นสิ่งสำคัญสุดท้ายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งจะขาดเสียมิได้ เพราะความกลมกลืนจะทำให้ภาพงดงาม และนำไปสู่เนื้อหาเรื่องราวที่นำมาเสนอ ความกลมกลืนมี 2 แบบ คือ
-ความกลมกลืนแบบคล้อยตามกัน
-ความกลมกลืนแบบขัดแย้ง

2.5 จังหวะ หมายถึง ระยะในการจัดวางของภาพหรือวัตถุ เช่น ลายไทย การปูกระเบื้อง การแปลอักษรเป็นต้น